สิวจากหน้ากากอนามัย

สิวจากการสวมหน้ากากอนามัย

日本語

ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา พบว่าหลายๆคนเจอกับปัญหาสิวเพิ่มขึ้น บริเวณที่สิวเพิ่มขึ้นจะเป็นบริเวณใบหน้าที่ถูกปิดด้วยหน้ากากอนามัย สาเหตุหลักเกิดจากการเสียดสีของหน้าหากอนามัยกับผิวหน้า โดยมีชื่อทางการแพทย์ว่า “ Acne mechanica”  ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ลักษณะสิว

บริเวณที่ใส่หน้ากากอนามัยจะเกิดสิวอุดตันซึ่งมีลักษาณะเป็นจุดเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร เมื่อใช้มือลูบผิวจะรู้สึกได้ว่าผิวไม่เรียบ และสิวอักเสบเกิดขึ้นบริเวณเดียวกัน

สาเหตุหลัก: เกิดจากการเสียดสีของหน้ากากอนามัยกับผิว

ปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดสิว

  • เครื่องสำอาง : ทำให้เกิดการอุดตันได้มากขึ้น
  • การอับชื้นจาการใส่หน้ากากอนามัยปิดผิวไว้ตลอดเวลา
  • ความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอ: พบว่าความเครียดและการนอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้เกิดสิวอักเสบได้มากขึ้น
  • ฮอร์โมนไม่สมดุลย์ : มักพบการอักเสบของสิวบริเวณรอบปากและคาง

การป้องกัน

เพื่อความปลอดภัยของทุกคน เราจึงหลีกเลี่ยงการใส่หน้ากากอนามัยที่เป็นสาเหตุหลักของสิวชนิดนี้ไม่ได้ จึงมีข้อแนะนำบางประการที่จะช่วยให้การเกิดสิวลดลงได้

  • การแต่งหน้าน้อยลง จะช่วยลดโอกาสการอุดตันลง
  • การดูแลรักษาความสะอาดผิวหน้า หากท่านแต่งหน้า เมื่อกลับบ้านควรล้างเครื่องสำอางออกให้หมดด้วยผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง และล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าที่มีคุณสมบัติลดการอุดตันที่ไม่ทำให้ผิวแห้ง เพราะการใช้โฟมล้างหน้าที่ทำให้ผิวแห้งจะทำให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้น
  • สำหรับหน้ากากอนามัยชนิกกระดาษควรเปลี่ยนใหม่ทุกวัน และสำหรับหน้ากากอนามัยชนิดผ้าควรซักทำความสะอาดทุกวันเพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคและกลิ่นเหม็น
  • การถอดหน้าการอนามัยในสถานที่ที่ปลอดภัย เช่น หากทำงานอยู่ในห้องคนเดียวก็ควรจะถอดหน้ากากอนามัยออก
  • ถ้ามีสิว ไม่ควรบีบแคะแกะเกา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อการดูแลอย่างถูกต้องและป้องกันการเกิดแผลเป็นและรอยหลุมสิว

การรักษา

จากที่กล่าวมาแล้วว่าเราไม่สามารถเลี่ยงการใส่หน้ากากอยนามัยซึ่งเป็นสาเหตุหลักได้ และเราก็ยังไม่ทราบว่าจะต้องใส่หน้ากากอนามัยไปอีกนานเท่าไร เราจึงควรเรียนรู้วิธีการดูแลผิวอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันแผลเป็นและรอยหลุมสิว

  • โฟมล้างหน้า ควรเลือกโฟมล้างหน้าที่ช่วยลดการอุดตันโดยไม่ทำให้ผิวแห้ง เพราะผิวที่แห้งจะเกิดการระคายเคืองได้ง่าย
  • ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวและลดการอักเสบจากธรรมชาติ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากเปลือกมังคุด สารสกัดวิชฮาเซล สารสกัดจากดอกคาร์โมมาย น้ำมันทีทรี สารสกัดจากฟีนูกรีก สารสกัดจากในบัวบก ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เหมาะสมจึงจะออกฤทธิ์ได้ดี
  • หากท่านมีสิวอักเสบมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิวที่คางและรอบปากซึ่งมีสาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนร่วมด้วย แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาบลัดโทนิก(Blood tonic)เพื่อช่วยปรับสมดุล
  • การทำทรีตเทนต์ สามารถทำการกดสิวอุดตันออก ร่วมกับการผลักสารสกัดจากธรรมชาติเพื่อช่วยลดรอยดำและการอักเสบ การใช้เลเซอร์ก็สามารถช่วยให้รอยสิวหายได้เร็วขึ้น
  • แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพราะผิวของแต่ละคนมีปัญหาไม่เหมือนกัน แพทย์จะสามารถแนะนำการรักษาที่เหมาะสม ไม่ควรซื้อยาฆ่าเชื้อใช้เอง การใช้ยาฆ่าเชื้อโดยไม่จำเป็นจะเป็นสาเหตุของการดื้อยาตามมา

 

Leave a Reply

Your email address will not be published.